วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561



เป็นเรื่องปกติที่คนที่เพิ่งจะเริ่มบริหารร่างกาย คุมของกินลดหุ่นนั้นจะเริ่มตั้งใจและก็เลือกทานอาหารเยอะขึ้น พร้อมเริ่มค้นหาสิ่งที่ “สามารถกินได้” ในระหว่างลดความอ้วน และก็สามารถบอกได้โดยทันทีว่า จำพวกของกินที่ถูกประยุกต์ใช้เพื่อ ตอบแทนของหวานหรือขนมหวานในตอนที่อยากได้กิน ชอบเป็น ผลไม้ นั่นเอง



แนวคิดเรื่องความอ้วนที่มาจากประเภทอาหารนั้นอาจจะถูกแต่ก็เพียงบางส่วนเพราะสิ่งที่ทำให้คนเราสะสมไขมันและเพิ่มน้ำหนักจริงๆนั้นคือ พลังงานในอาหารนั่นเอง การเลือกประเภทของอาหารนั้นมีบทบาทเพียงแค่ “ลดความเสี่ยงในการรับประทานอาหารพลังงานสูง” เช่น การทานผักต้มหนึ่งชาม นั้นย่อมให้พลังงานน้อยกว่าขนมขบเคี้ยว1ห่อใหญ่ๆเป็นต้น



ความเข้าใจผิดนั้นสืบต่อกันมาจนเป็นความเชื่อที่ว่า ทานผลไม้ไม่ทำให้อ้วน และประเภทของผลไม้ที่พบได้บ่อยๆในรายการอาหารว่างโดยทั่วๆไป ได้แก่ กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า แอปเปิ้ล ลูกแพร ฝรั่ง สาลี่ สับปะรด ซึ่งถ้ามองในมุมมองของพลังงานนั้น เชื่อหรือไม่ว่า แอปเปิ้ล หรือ กล้วยหอมหนึ่งลูกนั้นให้พลังงานเท่ากับน้ำอัดลมหนึ่งกระป๋อง ในขณะที่กล้วยน้ำว้าและลูกแพรนั้นให้พลังงานเท่าๆกับน้ำอัดลมประมาณ ¾กระป๋อง ซึ่งเรามักพบว่า คนส่วนใหญ่ระมัดระวังการรับประทานผลไม้น้อยมาก เนื่องจากมีความเข้าใจว่าผลไม้ไม่ทำให้อ้วน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เราจะพบว่าคนส่วนใหญ่ทานแอปเปิ้ลครั้งละ 1-2ลูก และอาจมากถึง 3-4ลูกต่อวัน กล้วยก็เช่นกัน เรามักพบว่าคนส่วนใหญ่ทานกล้วยครั้งละ 2-3ลูก และบางครั้งอาจมากถึง วันละหนึ่งหวี หรือ 6-8ลูกต่อวัน ถ้ามองในมุมมองของพลังงานแล้ว เท่ากับคนเหล่านี้ ดื่มน้ำอัดลมเฉลี่ยวันละ 1ลิตรเลยทีเดียว



ดังนั้นแม้กระทั่งคือผลไม้ หรือ อาหารที่ดีต่อร่างกาย ก็ควรรอบคอบเรื่องจำนวน รวมทั้ง พลังงานที่กำลังจะได้รับเพิ่มอยู่ดี ไม่ใช่ว่า “อาหารที่ดีทานเท่าไรก็ไม่อ้วน”

Post a Comment: